สั่งซื้อสินค้าผ่านทางไลน์คลิ๊ก

ยา cialis vs อาหารเสริม ให้ผลที่ต่างกันหรือไม่

4 ธันวาคม 2563, 03:29 น.

ในคนที่มีปัญหา ED หรือภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศนั้น จะต้องมองหาตัวช่วยอย่าง เพื่อมาแก้ปัญหาและรักษาอาการอวัยวะเพศไม่แข็งตัวกันอย่างแน่นอน เพราะภาวะที่อวัยวะเพศไม่สามารถที่จะแข็งตัวได้ ทำให้ไม่สามารถมีกิจกรรมบนเตียงได้ตามต้องการ แต่ยาที่มีการทำงานเหมือนนั้นก็มีหลายตัวด้วยกัน และในยาแต่ละตัวต่างกันอย่างไร ผลที่ได้ออกฤทธิ์เหมือนกันหรือไม่ ยาที่เราพูดถึงก็คือ cialis และ cialis vs นั้น ต่างกันอย่างไร ใครที่กำลังสงสัย เรามีคำตอบ

 

ยารักษาอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศคืออะไร?

การรักษาอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศในเพศชายนั้น จะรักษาโดยการใช้ยาขยายหลอดเลือดที่บริเวณอวัยวะเพศ ซึ่งวิธีการใช้ยานั้น เป็นการรักษาที่แพร่หลาย เพราะสะดวก กินง่าย และตัวยาออกฤทธิ์ค่อนข้างเร็ว รวมถึงได้ผลค่อนข้างดีอีกด้วย และยาในกลุ่มนี้ก็มีหลายชนิดด้วยกันในปัจจุบัน ซึ่งคนส่วนมากจะรู้จักอยู่ชนิดเดียวคือ แต่ยังมียาตัวอื่น ๆ ในกลุ่มเดียวกันด้วย นั่นก็คือ Cialis

 

ความแตกต่างระหว่าง cialis vs

หลายคนอาจสงสัยว่า นั้น หากเปรียบเทียบกับยาอื่น ๆ ที่กำหนดให้ใช้ในลักษณะเดียวกันได้นั้น เช่น ยา cialis มีความเหมือนหรือแตกต่างกันกับ อย่างไร

 

() เป็นชื่อทางการค้า ที่ประกอบด้วยยาซิลเดนาฟิล ในขณะที่ เซียลิส (cialis) มีตัวยาที่ชื่อว่าทาดาลาฟิล ซึ่งทั้งซิลเดนาฟิล และ ทาดาลาฟิล นั้น จัดอยู่ในกลุ่มยาที่เรียกว่าสารยับยั้ง phosphodiesterase type 5 (PDE5) และมีฤทธิ์ช่วยรักษาอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ (ED) ในผู้ชายอายุ 18 ปีขึ้นไป ซึ่งยาเหล่านี้มีหลักในการทำงานเพื่อรักษา ED คือ ช่วยให้อวัยวะมีการแข็งตัวขึ้นเมื่อมีอารมณ์ทางเพศ แต่ยาจะไม่ได้ผลหากไม่ถูกกระตุ้น นอกจากนี้เซียลิสยังได้รับการรับรองให้ใช้รักษาอาการที่เกิดจากโรคต่อมลูกหมากโต (BPH) ได้อีกด้วย

 

กลไกการออกฤทธิ์

การออกฤทธิ์ของยาทั้งสองตัวนี้ จะไม่ได้ออกฤทธิ์โดยตรงที่ทำให้อวัยวะเพศแข็งตัว แต่จะไปปรับเปลี่ยนการตอบสนองของร่างกายในการกระตุ้นทางเพศ และทำให้มีสารเคมีที่หลั่งออกมาในระหว่างการถูกกระตุ้น ส่งผลให้กล้ามเนื้อในอวัยวะเพศมีการคลายตัว จึงเกิดการไหลเวียนของเลือดดีขึ้น ซึ่งยาในกลุ่มนี้จัดว่ามีประสิทธิภาพที่ดีในการรักษา

 

ความแตกต่างในการใช้ยา

ยา และยาเซียลิสนั้น เป็นยาในรูปแบบเม็ดที่ใช้กินเหมือนกัน แต่มีความแตกต่างในการใช้ ดังนี้

1. ยานั้น จะมีขนาดของยาคือ 25, 50 และ 100 มิลลิกรัม ส่วนยาเซียลิสนั้น มีขนาดของยาคือ 5, 10 และ 20 มิลลิกรัม

2. ขนาดของยาสำหรับคนทั่วไปที่ไม่มีอาการป่วยของโรค และอายุไม่เกิน 60 ปี ปริมาณที่แนะนำสำหรับยานั้นคือ 100 มิลลิกรัม ส่วนยาเซียลิสคือ 10 มิลลิกรัม และอาจปรับขนาดของยาได้ถึง 20 มิลลิกรัม แต่หากมีปัญหาโรคประจำตัว หรือกรณีที่ต้องใช้ยาอื่น ๆ ร่วมด้วย ถ้าเป็นให้ใช้ปริมาณ 50 มิลลิกรัม ส่วนเซียลิสให้ใช้ขนาดต่ำคือ 5 มิลลิกรัม นอกจากนี้ในผู้ป่วยบางราย ที่ต้องระมัดระวังในการใช้ยา อาจมีการใช้ยาขนาด 25 มิลลิกรัม และยาเซียลิสในขนาด 2.5 มิลลิกรัมได้ แต่อย่างไรก็ตามไม่ควรใช้ยาในกลุ่มนี้เกินกว่าหนึ่งครั้งต่อวัน เพราะจะเป็นอันตราย

3. ยา จะต้องกินก่อนมีเพศสัมพันธ์ 30 นาที – 4 ชั่วโมง ยาจะช่วยให้อวัยวะเพศแข็งตัวได้นานประมาณ 4 ชั่วโมงหลังจากที่ร่างกายได้รับยา ส่วนยาเซียลิส จะต้องใช้เวลาอย่างน้อย 30 นาทีก่อนที่จะมีเพศสัมพันธ์ ยานี้สามารถช่วยให้อวัยวะเพศแข็งตัวได้นานถึง 36 ชั่วโมงหลังจากที่ร่างกายได้รับยา

4. การออกฤทธิ์ของ cialis vs

- cialis จะเริ่มออกฤทธิ์ได้เลยทันที และไม่ต้องกังวลว่าจะต้องกินยาเวลาไหน ก่อนหรือหลังอาหารหรือไม่ เพราะยาจะออกฤทธิ์ประมาณ 15-30 นาที ซึ่งจะมีระยะเวลาในการออกฤทธิ์ที่นานกว่าด้วย

- จะใช้เวลาในการออกฤทธิ์ประมาณ 30-60 นาที และจะต้องกินยาในขณะท้องว่าง และไม่ควรกินอาหารที่มีไขมัน 1 ชั่วโมงก่อนมีเพศสัมพันธ์

 

ผลข้างเคียงและความเสี่ยง

และเซียลิสต่างก็เป็นยาประเภทเดียวกัน ดังนั้น ยาเหล่านี้อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่คล้ายคลึงกันมาก ได้แก่

1. ผลข้างเคียงที่ไม่รุนแรง

- สามารถเกิดขึ้นได้กับ คือ มีผลต่อการมองเห็นที่ไม่รุนแรง และเป็นการเปลี่ยนแปลงชั่วคราว เช่น การมองเห็นเป็นสีฟ้า มองเห็นไม่ชัด มีอาการเวียนหัว ผื่นขึ้น

- สามารถเกิดขึ้นได้กับเซียลิส คือ มีอาการปวดแขนหรือขา มีการติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบน ไอ ท้องร่วง

- สามารถเกิดขึ้นได้กับทั้งและเซียลิส คือ อาการปวดหัว อาหารไม่ย่อย คัดจมูก ปวดหลัง เจ็บกล้ามเนื้อ

 

2. ผลข้างเคียงที่ร้ายแรง ซึ่งเป็นอาการที่อาจเกิดขึ้นได้ทั้งกับและเซียลิส

- อาการแพ้ เช่น อาการ priapism คือ การที่อวัยวะเพศแข็งตัวนานเกิน 4 ชั่วโมง และมีความเจ็บปวด

- ภาวะสายตาที่ทำให้เส้นประสาทตาเสียหาย

- สูญเสียการได้ยินอย่างกะทันหัน

- ความดันโลหิตต่ำ หากกินยาทั้งสองชนิดร่วมกับยาอื่น ๆ

- มีปัญหาเกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือด

 

ประสิทธิภาพในการใช้ยา

ยา cialis vs นั้น มีการใช้ที่ได้รับการอนุมัติแตกต่างกัน แต่ทั้งคู่ใช้ในการรักษา ED เหมือนกัน ซึ่งการใช้และเซียลิสในการรักษา ED นั้น พบว่ายาทั้งสองชนิดมีประสิทธิภาพใกล้เคียงกันในการช่วยแก้ไขและรักษาความสามารถของผู้ชายในการแข็งตัวของอวัยวะเพศ และในการวิจัยของนักวิจัยจากอเมริกาก็พบว่า ผู้ชายที่ได้กินยาเซียลิสเข้าไปนั้น มีความมั่นใจในความสามารถทางเพศของตนดีขึ้น ทำให้มีแนวโน้มว่าผู้ชายส่วนมากจะชอบเซียลิสมากกว่า สาเหตุนี้อาจเกิดจากการที่ยาเซียลิสนั้น ออกฤทธิ์ได้ยาวนานกว่า จึงช่วยให้ผู้ชายมีเพศสัมพันธ์ได้เองมากขึ้น แต่คนที่กินเซียลิสมีแนวโน้มที่จะปวดหลังหรือปวดกล้ามเนื้อมากกว่าคนที่กิน และคนที่กินเซียลิสมีโอกาสน้อยที่จะมีอาการชักเมื่อเทียบกับคนที่กินด้วยเช่นกัน ในส่วนของราคานั้น และเซียลิสต่างก็เป็นชื่อการค้าของยาที่มียี่ห้อ ซึ่งโดยทั่วไปมีราคาใกล้เคียงกัน แต่ต่างกันที่ปริมาณของยาเท่านั้น

 

ข้อควรระวังในการใช้ยา

การออกฤทธิ์ของยาทั้งสองชนิดนี้ มีผลต่อการขยายหลอดเลือดบริเวณอวัยวะเพศชาย ทำให้หลอดเลือดในบริเวณอื่นของร่างกายมีการขยายตัวได้ ข้อควรระวังในการใช้ยากลุ่มนี้ก็คือ ไม่ควรใช้ในกลุ่มผู้ป่วยโรคหัวใจที่กินยาขยายหลอดเลือดในกลุ่มไนเตรต เพราะยาทั้งสองตัวนี้จะไปทำให้หลอดเลือดขยายตัวมากกว่าปกติ ส่งผลให้ความดันโลหิตต่ำลงกะทันหัน อาจเกิดอาการช็อกและเป็นอันตรายถึงชีวิตได้

 

ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยและป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้น หากรับยาในกลุ่มไนเตรตอยู่ไม่ควรใช้ยาทั้งสองชนิดนี้ รวมถึงยาชนิดอื่น ๆ ในกลุ่มรักษา ED ด้วย แต่ถ้าหากมีการรักษาโรคหัวใจจนดีขึ้นและหยุดกินยากลุ่มไนเตรตแล้วนั้น ต้องรอให้หยุดยาอย่างน้อย 2 สัปดาห์ขึ้นไปก่อน ถึงจะกินยาในกลุ่มได้ และหากมีอาการข้างเคียงดังที่กล่าวไป ต้องรีบหยุดกิจกรรมที่ทำอยู่ หยุดกินยาทันที และรีบไปพบแพทย์โดยเร็ว

 

ยา cialis vs ทั้งสองตัวนี้นั้น จัดว่าเป็นยาควบคุมพิเศษ ก่อนจะใช้ยาเพื่อรักษาอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศของตนเองนั้น ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ เพื่อจะได้รู้ถึงว่าเรามีความเสี่ยงในการใช้ยาหรือไม่ และควรจะต้องใช้ยาตัวไหน ในปริมาณเท่าไหร่ ถึงจะเหมาะสม โดยเฉพาะคนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงทั้งหลาย ที่เป็นโรคหัวใจ เบาหวาน และความดัน ห้ามซื้อยามากินเองเป็นอันขาด

 

แม้ว่าอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ จะเป็นอาการที่รักษาได้ด้วยยาทั้งและเซียลิสก็ตาม แต่เราสามารถดูแลและรักษาตนเองได้ด้วยวิธีอื่น ๆ เช่น ออกกำลังกายอยู่เสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ งดสูบบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมไปถึงกินอาหารที่มีประโยชน์และช่วยเสริมสมรรถภาพทางเพศได้ หากลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเหล่านี้ดู ก็อาจจะช่วยแก้ปัญหาหย่อนสมรรถภาพทางเพศ โดยที่ไม่ต้องใช้ยาช่วยรักษาเลยก็ได้

ข่าวและบทความ
มีหลายคนที่ต้องประสบกับปัญหาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ จนกลายเป็นปัญหาในชีวิตคู่ จนทำให้ต้องห...อ่านต่อ
การใช้ยาอาหารเสริมชายในการแก้ปัญหาน้องชายไม่แข็งตัวนั้น ได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มผู้ที...อ่านต่อ
ปัจจุบันสภาวะแวดล้อม หรือเหตุปัจจัยต่างๆที่อยู่รอบตัว อาจส่งผลกระทบให้กับสภาวะจิตใจและร่าง...อ่านต่อ
เปิดทำการ
สั่งซื้อสินค้า

จันทร์ - อาทิตย์

09.00 - 18.00 น.

อาหารเสริมโอ @copy 2020 Copy right reserve by O-officialthailand.com